เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เผยครึ่งปีแรก ยอดเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์แซงคอนโด ครั้งแรกรอบ10 ปีสวนทางคอนโดเปิดตัวลดลง 40-50% เหตุโควิดกระตุ้นคนหันซื้ออสังหาฯแนวราบรองรับวิถีชีวิตใหม่ ระบุครึ่งปีหลังเปิด 3 โครงการรองรับเรียลดีมานด์ชานเมือง

นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ประกอบการอสังหาฯเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์มากกว่าคอนโดมิเนียมในรอบ10 ปี โดยมียอดเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้น30%จากปีก่อน จากเดิมที่ผ่านมาคอนโดจะเปิดตัวโครงการมากเป็นอันดับหนึ่ง แต่ในปีนี้คอนโดเปิดตัวลดลง40-50%

เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯปรับตัวตามดีมานด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมทั้งการปรับตัวตามสภาพแวดล้อมในที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นคอนโดหรือบ้านแนวราบ ผู้บริโภคสนใจพื้นที่ทำงานมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากโควิด-19 ที่ทำให้คนมีประสบการณ์การทำงานที่บ้าน(Work from Home)มากขึ้น

นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ความเป็นส่วนตัวและความสะอาดมากขึ้นเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคมซึ่งปกติคนเลือกซื้อคอนโดจะไม่ชอบอยู่คอนโดที่มีจำนวนคนเยอะมาก ดังนั้นพร็อพเพอร์ตี้แมนเนจเมนท์ จะเข้ามามีบทบาทในการให้บริการมากขึ้น ซึ่งเป็นนิวนอร์มอลสำคัญ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนโครงการอุตสาหกรรม แต่เปลี่ยนวิธีการจัดการพื้นที่และบริการที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ในแง่เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบทมากขึ้นก็คือโซลูชั่นในรูปแบบต่างๆ

“วิกฤติครั้งนี้ทำให้เงินในกระเป๋าบางลง แบงก์ให้กู้น้อยลง ฉะนั้นผู้บริโภคที่ซื้อที่อยู่อาศัยต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่ถูกลงผู้ประกอบการอสังหาฯต้องรีแพ็กเกจให้ต้นทุนต่ำลง ตัดโซลูชั่นต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไป โดยกระจายเซ็กเมนต์ตามกำลังซื้อของลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ โซลูชั่นต่างๆเริ่มเข้าใช้ในเซ็กเมนต์ระดับกลางแต่ช่วงหลังกลับเข้าอยู่ในเซ็กเมนต์ระดับบนแทนวิกฤติโควิดครั้งนี้เหมือนกับการนำวิกฤติน้ำท่วมกับต้มยำกุ้งมารวมกัน เพราะเปิดไซต์ไม่ได้และเกิดวิกฤติเศรษฐกิจด้วย”

ส่วนแผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทได้ปรับแผนการเปิดโครงการใหม่เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ และกำลังซื้อ โดยจะเปิด 6 โครงการ รวมมูลค่า 3,100 ล้านบาทจากเดิมมีแผนจะเปิด 10 โครงการ รวมมูลค่า 7,500 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรก เปิดไปแล้วจำนวน 3 โครงการ ส่วนที่เหลืออีก 3 โครงการจะเปิดช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย เดอะ คิทท์ พลัส พหลโยธิน – คูคต เฟส 2 ราคาเริ่มต้น 37,000 บาทต่อตร.ม. เสนา วีว่า เพชรเกษม พุทธมณฑลสาย 7 เป็นทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท และ 3.เสนา คิทท์ เทพารักษ์ – บางบ่อ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ คอร์ปเปอเรชั่น ราคาเริ่มต้น 37,000 บาทต่อตร.ม. เพื่อรองรับเรียลดีมานด์ชานเมือง

ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าขายแล้วรอโอน (Backlog) มูลค่า 11,497 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ 5,863 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการของบริษัทร่วมทุน มูลค่า 4,867 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท- แบริ่ง ,โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ และ โครงการ นิช โมโน เจริญนคร และ โครงการคอนโดของบริษัทเสนาฯ มูลค่า 713 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว และโครงการแนวราบของบริษัทเสนาฯ และบริษัทเสนา วานิช เป็นโครงการในต่างจังหวัด มูลค่า 283 ล้านบาท

 

ขอบคุณข่าวจาก